จังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ปัญหาเอดส์ หลังพบสถิติผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า สถานการณ์โรคเอดส์ของจังหวัดภูเก็ตขณะนี้มีผู้ป่วยจำนวน 4,022 คน เป็นเพศชาย 2,687 คน หญิง 1,335 คน โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์มากสุดมีอายุระหว่าง 25-40 ปี
ส่วนสาเหตุของการติดเชื้อ 93% เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย ไม่สวมถุงยางอนามัย เปลี่ยนคู่นอน รองลงมา 3% เกิดจากการใช้ยาเสพติด ส่วนอาชีพที่เสี่ยงติดเอดส์มากที่สุด คือ อาชีพรับจ้าง
ขณะที่พื้นที่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุด คือ พื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ และ ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเอดส์มากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดพะเยา และจังหวัดจันทบุรี
อย่างไรก็ตาม สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นทาง หน่วยงานที่เกี่ยวจะต้องเร่งดำเนินการป้องกันด้วยความเข้มข้น โดยการดำเนินการนั้นจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือร่วมกันโดยเน้นเข้าไป ดูแลป้องกันในส่วนของกลุ่มเสี่ยง ซึ่งการดำเนินการนั้นจะต้องทำในหลายวิธีการ ทั้งเรื่องของการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร รวมถึงเรื่องของการดูแลผู้ที่ป่วยให้ได้รับยาอย่างทั่วถึง
นายแพทย์วิวัฒน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคเอดส์นั้นได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากนี้จะมีการเพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้มาก ยิ่งขึ้น เพราะโรคเอดส์ก็ถือเป็นปัญหาสำคัญอีกปัญหาหนึ่งที่จะต้องรีบดำเนินการแก้ไข
ส่วนสาเหตุของการติดเชื้อ 93% เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย ไม่สวมถุงยางอนามัย เปลี่ยนคู่นอน รองลงมา 3% เกิดจากการใช้ยาเสพติด ส่วนอาชีพที่เสี่ยงติดเอดส์มากที่สุด คือ อาชีพรับจ้าง
ขณะที่พื้นที่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุด คือ พื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ และ ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเอดส์มากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดพะเยา และจังหวัดจันทบุรี
อย่างไรก็ตาม สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นทาง หน่วยงานที่เกี่ยวจะต้องเร่งดำเนินการป้องกันด้วยความเข้มข้น โดยการดำเนินการนั้นจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือร่วมกันโดยเน้นเข้าไป ดูแลป้องกันในส่วนของกลุ่มเสี่ยง ซึ่งการดำเนินการนั้นจะต้องทำในหลายวิธีการ ทั้งเรื่องของการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร รวมถึงเรื่องของการดูแลผู้ที่ป่วยให้ได้รับยาอย่างทั่วถึง
นายแพทย์วิวัฒน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคเอดส์นั้นได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากนี้จะมีการเพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้มาก ยิ่งขึ้น เพราะโรคเอดส์ก็ถือเป็นปัญหาสำคัญอีกปัญหาหนึ่งที่จะต้องรีบดำเนินการแก้ไข
ข้อมูลจาก...ผ็จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น