วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ศูนย์ประชุมนานาชาติ ภูเก็ตคืบ

ศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ตคืบหลังรัฐบาลหนุนงบไทยเข้มแข็งกว่า 3,000 ล้านบาท ด้านรองนายกฯ กอร์ปศักดิ์ ชี้เริ่มก่อสร้างปี 55


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 พ.ย.52 ที่บ้านท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อ. ถลาง จ. ภูเก็ต นายกอรปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ อ.ถลาง ยิมเนซี่ยมศูนย์กีฬาสะพานหิน และการขยายถนนสี่แยกไทนาน จ.ภูเก็ต และติดตามความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง โดยมี นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เพพบุตร รองเลขานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายทศพร เพทบุตร นายเรวัติ อารีรอบ น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ สส. ภูเก็ตและ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การต้อนรับ

นายกอรปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมรับทราบความก้าวหน้า ปัญหา และอุปสรรคโครงการไทยเข้มแข็งจังหวัดภูเก็ต ถึงทิศทางการทำงานตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ว่าระยะที่ 1 รัฐบาลได้เน้นให้การช่วยเหลือด้านเกษตรกรรมเพื่อประชาชนคนส่วนใหญ่ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมีเป้าหมายให้คนส่วนใหญ่มีกำลังในการใช้จ่าย เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไปด้วย ส่วนงบประมาณไทยเข้มแข็ง ระยะที่ 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจัดสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรรศการนานาชาติ บริเวณที่ราชพัสดุ บ้านไม้ขาว อ.ถลาง แล้ว จำนวน 3,200 ล้านบาทบนเนื้อที่ 150 ไร่ ในฐานะผู้ที่เคยดูแลงานก่อสร้างศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ลงมาดูแลงานก่อสร้างศูนย์ประชุมครั้งนี้ ตนคงจะไม่ทำให้เสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน สำหรับการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งจำเป็นต้องคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานส่วนต่าง ๆ อย่างละเอียด

นายกอรปศักดิ์ ยังกล่าวถึง การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายเน้นการสร้างคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการพัฒนา คน โดยตนเชื่อว่า หากทุกภาคส่วนได้ร่วมมือไปในทางทิศทางเดียวกันในการมุ่งสร้างความประทับใจก็จะช่วยภูเก็ตมีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ทางด้าน นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่จังหวัดภูเก็ต ได้รับการดูแลจากรัฐบาลและให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ ตามแผนปฏิบัติงานไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 เป็นจำนวนเงินกว่า 4,000 ล้านบาท

---------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น: