ศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคก่อสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ที่ต้องใช้งบประมาณ 40 ล้านบาททำพิธีขึ้นเสาเอกสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า
นายธัชพล เทพบุตร รองประธานศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว พร้อมนางเบญจมาส โกยศิริพงศ์ ประธานจัดสร้างศาลเจ้าถี่กงตั๋ว นางจิตรา ก่อนันทเกียรติ นักเขียนชื่อดัง นายสัก ก่อแสงเรื่อง นายกสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย นายหาย เอกวานิช นายกสมาคมฮกเกี้ยนสามัคคีจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการก่อสร้างศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว ซึ่งตั้งอยู่ ต.บ้านแหลมชั่น หมู่ที่ 2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากศาลเจ้าดังกล่าวก่อสร้างมาเป็นเวลากว่า 100 ปี และได้ชำรุด ทางคณะกรรมการศาลเจ้าฯจึงได้มีมติที่จะก่อสร้างศาลเจ้าใหม่ขึ้นมา
นายธัชพล เทพบุตร รองประธานศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว กล่าวว่า ศาลถี่ก๋งตั๋วหลังใหม่จะเป็นอาคาร 2 ชั้นที่ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมฮกเกี้ยนโบราณ โดยมีสถาปิกผู้เชี่ยวชาญการออกแบบศาลเจ้าโดยเฉพาะเป็นชาวจีนปีนัง ประเทศมาเลเซีย ชื่อ Mr.Tan Yeow Wooi เป็นผู้ออกแบบ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งจะมีพิธีขึ้นเสาเอกในวันที่ 31 มกราคม 2555 โดยมีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานฯ
โดยชั้นล่างจะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์จีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาอาศัยใน จังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมประเพณีของคนจีนฮกเกี้ยนและอื่นๆ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นที่ประดิษฐสถานขององค์พระทั้งหมด
สำหรับการจัดหารายได้เพื่อก่อสร้างศาลเจ้าฯนั้นทางคณะกรรมการฯได้ กำหนดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคดังนั้ เสาชั้นที่ 1 จำนวน 42 ต้นที่เป็นเสาบริเวณห้องหยกอ๋อง ราคา 50,000 บาท มีผู้ร่วมสร้างเต็มทั้งหมดแล้ว เสาทั่วไป ราคา 30,000 บาท เหลือ 16 เสา เสาชั้นที่ 2 จำนวน 42 ต้น เสาบริเวณห้องหยกอ๋อง ราคา 50,000 บาท เสาทั่วไป ราคา 30,000 บาท มีผู้ร่วมสร้างทั้งหมดแล้ว และเสาเข็ม 42 ต้น กำหนดวงเงินในการจัดสร้าง 10,000 บาท ปัจจุบันเหลือ 16 ต้น
ส่วนคาน กระเบื้องหลังคา ประตูหน้าต่าง ทางคณะกรรมการฯยังไม่ได้กำหนดวงเงิน และการบริจาคตามจิตศรัทธา หากบริจาคตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ศาลเจ้าจะมอบเหรียญรูปเหมือนองค์พระให้ 1 เหรียญ และทางคณะกรรมการยังได้จัดเตรียม แผ่นทองเหลือง ไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาโดยกำหนดวงเงินไว้ 1,000 บาท เพื่อให้ทุกคนได้สลักชื่อลงในแผ่นทองเหลืองเพื่อบรรจุในฐานเสาเอกในวันที่ 31 มกราคม 2555 นี้ เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป
นายธัชพล กล่าวต่อว่า สำหรับศาลเจ้าหลังปัจจุบันนั้น จะมีการยกย้ายไปอยู่ในบริเวณห่างจากศาลเจ้าหลังใหม่ 40 เมตร เพื่อเก็บไว้เป็นโบราณสถานและทำอาคารคุมไว้ เพราะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า
สำหรับประวัติศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋วนั้น นายธัชพล กล่าวว่า จากการบอกเล่าที่สืบทอดกันมา จุดที่ตั้งของศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋วเป็นจุดรวมของชาวจีนปี้เถ้าจ๋าง (ชาวจีนไว้ผมเปีย) ที่เดินทางมาจากโพ้นทะเลเพื่อมาทำงานเหมืองที่ภูเก็ต เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์พูดคุยกัน ต่อมาจึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสถานที่ประกอบพิธีกรรม ตามประเพณี จึงได้ส่งตัวแทนเดินทางกลับเมืองจีนเพื่ออัญเชิญผงธูป แผ่นป้ายชื่อองค์หยกอ๋องซ๋องเต่และกิมซิ้น (รูปแกะสลักไม้) องค์พระกวนเต๋กุน องค์จูฉ้อง องค์กวนเป๋ง นำมาตั้งบูชา ณ.จุดศูนย์รวมของชาวจีนปี้เถ้าจาง โดยเบื้องต้นสถานที่นี้เป็นเพียงอาคารเล็กๆ ต่อมาชาวจีนปี้เถ้าจางได้เข้ามาประกอบพิธีกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่คับแคบเกินไปจึงได้ร่วมกันระดมทุนและร่วมแรงร่วมใจ สร้างถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้ให้ใหญ่โตขึ้น
สำหรับสถานที่ตั้งถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้เป็นที่ดินของนายหลอบี้ (แซ่หลอ) และนางขวด ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนและเป็นต้นตระกูลเทพบุตร ได้อนุญาตให้สร้างในที่ดินของตนเอง พร้อมทั้งได้ร่วมกับชาวบ้านแหลมชั่นและชาวบ้านใกล้เคียงได้ดูแลศาลเจ้าแห่ง นี้โดยตลอด โดยเฉพาะตระกูลเทพบุตรถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้ จากรุ่นสู่รุ่นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
นายธัชพล เทพบุตร รองประธานศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว พร้อมนางเบญจมาส โกยศิริพงศ์ ประธานจัดสร้างศาลเจ้าถี่กงตั๋ว นางจิตรา ก่อนันทเกียรติ นักเขียนชื่อดัง นายสัก ก่อแสงเรื่อง นายกสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย นายหาย เอกวานิช นายกสมาคมฮกเกี้ยนสามัคคีจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการก่อสร้างศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว ซึ่งตั้งอยู่ ต.บ้านแหลมชั่น หมู่ที่ 2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากศาลเจ้าดังกล่าวก่อสร้างมาเป็นเวลากว่า 100 ปี และได้ชำรุด ทางคณะกรรมการศาลเจ้าฯจึงได้มีมติที่จะก่อสร้างศาลเจ้าใหม่ขึ้นมา
นายธัชพล เทพบุตร รองประธานศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋ว กล่าวว่า ศาลถี่ก๋งตั๋วหลังใหม่จะเป็นอาคาร 2 ชั้นที่ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมฮกเกี้ยนโบราณ โดยมีสถาปิกผู้เชี่ยวชาญการออกแบบศาลเจ้าโดยเฉพาะเป็นชาวจีนปีนัง ประเทศมาเลเซีย ชื่อ Mr.Tan Yeow Wooi เป็นผู้ออกแบบ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งจะมีพิธีขึ้นเสาเอกในวันที่ 31 มกราคม 2555 โดยมีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานฯ
โดยชั้นล่างจะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์จีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาอาศัยใน จังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมประเพณีของคนจีนฮกเกี้ยนและอื่นๆ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นที่ประดิษฐสถานขององค์พระทั้งหมด
สำหรับการจัดหารายได้เพื่อก่อสร้างศาลเจ้าฯนั้นทางคณะกรรมการฯได้ กำหนดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคดังนั้ เสาชั้นที่ 1 จำนวน 42 ต้นที่เป็นเสาบริเวณห้องหยกอ๋อง ราคา 50,000 บาท มีผู้ร่วมสร้างเต็มทั้งหมดแล้ว เสาทั่วไป ราคา 30,000 บาท เหลือ 16 เสา เสาชั้นที่ 2 จำนวน 42 ต้น เสาบริเวณห้องหยกอ๋อง ราคา 50,000 บาท เสาทั่วไป ราคา 30,000 บาท มีผู้ร่วมสร้างทั้งหมดแล้ว และเสาเข็ม 42 ต้น กำหนดวงเงินในการจัดสร้าง 10,000 บาท ปัจจุบันเหลือ 16 ต้น
ส่วนคาน กระเบื้องหลังคา ประตูหน้าต่าง ทางคณะกรรมการฯยังไม่ได้กำหนดวงเงิน และการบริจาคตามจิตศรัทธา หากบริจาคตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ศาลเจ้าจะมอบเหรียญรูปเหมือนองค์พระให้ 1 เหรียญ และทางคณะกรรมการยังได้จัดเตรียม แผ่นทองเหลือง ไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาโดยกำหนดวงเงินไว้ 1,000 บาท เพื่อให้ทุกคนได้สลักชื่อลงในแผ่นทองเหลืองเพื่อบรรจุในฐานเสาเอกในวันที่ 31 มกราคม 2555 นี้ เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป
นายธัชพล กล่าวต่อว่า สำหรับศาลเจ้าหลังปัจจุบันนั้น จะมีการยกย้ายไปอยู่ในบริเวณห่างจากศาลเจ้าหลังใหม่ 40 เมตร เพื่อเก็บไว้เป็นโบราณสถานและทำอาคารคุมไว้ เพราะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า
สำหรับประวัติศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋วนั้น นายธัชพล กล่าวว่า จากการบอกเล่าที่สืบทอดกันมา จุดที่ตั้งของศาลเจ้าถี่ก๋งตั๋วเป็นจุดรวมของชาวจีนปี้เถ้าจ๋าง (ชาวจีนไว้ผมเปีย) ที่เดินทางมาจากโพ้นทะเลเพื่อมาทำงานเหมืองที่ภูเก็ต เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์พูดคุยกัน ต่อมาจึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสถานที่ประกอบพิธีกรรม ตามประเพณี จึงได้ส่งตัวแทนเดินทางกลับเมืองจีนเพื่ออัญเชิญผงธูป แผ่นป้ายชื่อองค์หยกอ๋องซ๋องเต่และกิมซิ้น (รูปแกะสลักไม้) องค์พระกวนเต๋กุน องค์จูฉ้อง องค์กวนเป๋ง นำมาตั้งบูชา ณ.จุดศูนย์รวมของชาวจีนปี้เถ้าจาง โดยเบื้องต้นสถานที่นี้เป็นเพียงอาคารเล็กๆ ต่อมาชาวจีนปี้เถ้าจางได้เข้ามาประกอบพิธีกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่คับแคบเกินไปจึงได้ร่วมกันระดมทุนและร่วมแรงร่วมใจ สร้างถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้ให้ใหญ่โตขึ้น
สำหรับสถานที่ตั้งถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้เป็นที่ดินของนายหลอบี้ (แซ่หลอ) และนางขวด ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนและเป็นต้นตระกูลเทพบุตร ได้อนุญาตให้สร้างในที่ดินของตนเอง พร้อมทั้งได้ร่วมกับชาวบ้านแหลมชั่นและชาวบ้านใกล้เคียงได้ดูแลศาลเจ้าแห่ง นี้โดยตลอด โดยเฉพาะตระกูลเทพบุตรถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลถี่ก๋งตั๋วแห่งนี้ จากรุ่นสู่รุ่นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น